* ✨👇✨ กดรับ Link นิยายรสแซ่บได้ที่ปกทุกปกที่นี่เลยจ้าา ✨👇✨ *

niyayZAP Related E-Books Related E-Books Related E-Books Related E-Books Series E-Books niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Related E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน Series เจ้าสาวหญ้าอ่อน niyayZAP Series E-Books Series E-Books Series E-Books Series E-Books niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP niyayZAP Related E-Books niyayZAP niyayZAP Related E-Books Series E-Books Series E-Books  Series E-Books

Tuesday, January 14, 2025

คลั่งรัก..เล่ห์พยศ เพื่อนพ่อรสเผ็ด! [02] อเล็กซานเดอร์และแอนนาเลีย

🍹
คลั่งรัก..เล่ห์พยศ: เพื่อนพ่อรสเผ็ด!

โดย
หมื่นล้านคำรัก และ AI

©️ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

อเล็กซานเดอร์และแอนนาเลีย

ตอนเดียวจบ

ราชันแห่งคาสิโน

เสียงดนตรีแจ๊สอันลุ่มลึกคลอเคล้ากับเสียงหัวเราะและเสียงชิปที่กระทบโต๊ะ เบื้องล่างคือความคึกคักของคาสิโน "Crown Royale", สถานบันเทิงสุดหรูที่ตั้งอยู่ใจกลางมหานครนิวยอร์ก สถานที่ซึ่งนักพนันและเหล่าคนชั้นสูงจากทั่วโลกต่างหลั่งไหลเข้ามาเพื่อเสี่ยงโชคและดื่มด่ำในความเย้ายวนที่หาไม่ได้จากที่อื่น

บนชั้นเพนต์เฮาส์ส่วนตัวที่มองเห็นทั้งเมือง ชายผู้ครอบครองทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้ยืนอยู่หน้ากระจกสูงที่สะท้อนทั้งเงาของเขาและแสงสีระยิบระยับจากเมืองด้านนอก

อเล็กซานเดอร์ แบล็ควูด หรือที่ใครๆ ในวงการเรียกว่า "The Taurus King", ชายวัย 40 ปีที่เพียบพร้อมทั้งความมั่งคั่งและเสน่ห์อันเกินต้านทาน ลูกครึ่งไทย-อังกฤษที่หลอมรวมความหล่อเหลาของสองเชื้อชาติไว้อย่างสมบูรณ์แบบ สูงโปร่งและสง่างาม โครงหน้าคมสันด้วยกรามชัด จมูกโด่งรับกับดวงตาสีเขียวมรกตที่มักสะกดทุกคู่สายตา เขาสวมสูททักซิโด้สีดำสนิทที่ตัดเย็บอย่างประณีต บ่งบอกถึงรสนิยมและอำนาจที่เหนือชั้น

เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับผู้จัดการคาสิโนเดินเข้ามาอย่างเงียบงัน "รายงานคืนนี้ครับ คุณแบล็ควูด กำไรจากโต๊ะรูเล็ตทะลุเป้าหมายแล้ว ส่วนห้อง VIP มีแขกพิเศษจองเต็มทุกโต๊ะ"

อเล็กซานเดอร์พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะยกแก้วบรั่นดีในมือขึ้นจิบ ของเหลวสีอำพันสะท้อนแสงไฟอ่อนๆ ในห้อง “ดีมาก แต่จงจำไว้... เราไม่ได้แค่ขายความหรูหรา เราขายความฝัน และความฝันต้องสมบูรณ์แบบเสมอ” น้ำเสียงของเขาทุ้มลึกและนุ่มนวล แต่กลับกดดันจนผู้จัดการต้องรีบพยักหน้ารับคำ

เมื่อประตูปิดลง อเล็กซานเดอร์หมุนตัวกลับมายืนที่ระเบียงกระจก มองลงไปยังผู้คนด้านล่างที่กำลังปลดปล่อยตัวเองในค่ำคืนที่ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เขายิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นแฝงทั้งความมั่นใจและความลึกลับ

ที่มุมหนึ่งของห้อง มีกรอบรูปเล็กๆ วางอยู่ ภาพถ่ายครอบครัวในอดีตเผยให้เห็นชายหนุ่มในวัย 20 ที่ยิ้มอย่างอบอุ่นเคียงข้างหญิงสาวและเด็กเล็กในอ้อมแขน แววตาของเขาในภาพนั้นแตกต่างจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง

เขาหยิบกรอบรูปขึ้นมา จ้องมองมันอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะวางมันลงอย่างแผ่วเบา "ความสุข... มีราคาเสมอ" เขาพึมพำกับตัวเอง

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง ผู้ช่วยส่วนตัวเข้ามาพร้อมรายงานถึงการประมูลไวน์หายากที่กำลังจะเริ่มในอีกไม่กี่นาที “พร้อมทุกอย่างไหม” อเล็กซานเดอร์ถาม น้ำเสียงมั่นคง

“ทุกอย่างสมบูรณ์แบบตามคำสั่งของคุณครับ” ผู้ช่วยตอบ ก่อนจะรีบก้าวถอยหลังออกไป

เมื่ออยู่เพียงลำพัง อเล็กซานเดอร์เดินไปยังโต๊ะโป๊กเกอร์ส่วนตัว เขาหยิบไพ่ขึ้นมาหนึ่งใบ หมุนมันระหว่างนิ้วมืออย่างคล่องแคล่วก่อนจะพลิกดู มันคือ เอซโพดำ ใบที่เขาชื่นชอบที่สุด ไพ่ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งการควบคุมและชัยชนะ

“เกมนี้ยังไม่จบ... และฉันคือเจ้ามือ” เขากล่าวเบาๆ กับตัวเอง ก่อนจะโยนไพ่ลงบนโต๊ะด้วยท่าทางสง่างาม


... ⋆。♔˚. ...


เสียงบรรเลงของไวโอลินและเปียโนก้องกังวานไปทั่วห้องรับรองส่วนตัวในคฤหาสน์ริมฝั่งแม่น้ำแซน อาคารหรูหราแบบนีโอคลาสสิกแห่งนี้เป็นที่ตั้งของงานเลี้ยงสังสรรค์ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จอีกครั้งของ ฌาคส์ โบวาร์ด มหาเศรษฐีชาวฝรั่งเศสที่เป็นทั้งเจ้าของบริษัทไวน์ระดับโลกและเป็นนักสะสมงานศิลป์ตัวยง

ท่ามกลางแขกผู้ทรงเกียรติในชุดราตรีและทักซิโด้ที่กำลังเพลิดเพลินกับไวน์ชั้นเลิศและบทสนทนาที่แฝงด้วยอำนาจ แอนนาเลีย โบวาร์ด หญิงสาววัย 19 ปี ลูกสาวคนเดียวของฌาคส์ กลับยืนห่างจากกลุ่มคนเหล่านั้นด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความไม่พอใจ

เธอสวมชุดเดรสยาวสีแดงสดที่เปิดไหล่และแหวกสูงขึ้นมาเหนือเข่า เนื้อผ้าซาตินเนียนละเอียดแนบไปกับผิวกายขับเน้นสัดส่วนที่งดงามราวกับประติมากรรม ใบหน้าของเธอสวยคมราวกับภาพวาดยุคเรอเนสซองส์ ดวงตาสีเทาหม่นที่แฝงด้วยความดื้อรั้นจ้องมองโทรศัพท์มือถือในมือ

บนหน้าจอคือภาพของ อเล็กซานเดอร์ แบล็ควูด ชายที่เธอรู้จักมาตั้งแต่ยังเด็กและเป็นคนที่เธอไม่เคยลืม แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พบกันมาหลายปีแล้ว แต่ความทรงจำเกี่ยวกับเขายังคงชัดเจนในใจเสมอ

เขากำลังปรากฏตัวในงานกาล่าที่นิวยอร์กพร้อมกับซูเปอร์โมเดลชื่อดัง รอยยิ้มมั่นใจของเขาในภาพทำให้หัวใจของแอนนาเลียเต้นแรง ทั้งด้วยความโกรธและ... ความรู้สึกบางอย่างที่เธอไม่อยากยอมรับ

“พ่อคะ” เสียงเรียกของเธอดึงความสนใจของฌาคส์ที่กำลังพูดคุยอยู่กับแขกกลุ่มใหญ่ ฌาคส์หันมามองลูกสาวด้วยรอยยิ้มอบอุ่น “มีอะไรหรือที่รัก?”

“พ่อได้ข่าวว่าอเล็กซานเดอร์กำลังควงกับดาราคนนั้นหรือเปล่า?” เธอถามตรงๆ น้ำเสียงของเธอแฝงด้วยความไม่พอใจที่ปิดไม่มิด

ฌาคส์เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆ “ทำไมลูกต้องสนใจเรื่องนี้ด้วย?”

“เพราะฉันไม่พอใจ” เธอตอบทันที ดวงตาเป็นประกายวาววับ “เขาทำเหมือนไม่มีใครในโลกนี้สำคัญสำหรับเขา แต่ฉันจะแสดงให้เขาเห็นว่าเขาคิดผิด”

ฌาคส์ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ลูกจะทำอะไร?”

“ฉันจะไปนิวยอร์ก และจะไปทำงานกับเขา” เธอยืนยัน ดวงตาจ้องสบกับพ่อของเธออย่างมุ่งมั่น

“ไปทำงานกับเขา? ลูกจะทำอะไร? ลูกไม่เคยทำงานสักครั้งในชีวิต”

“ฉันจะเป็นเลขาส่วนตัวของเขา” เธอยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความมั่นใจและเสน่ห์ที่ยากจะปฏิเสธ

ฌาคส์ถอนหายใจ “ลูกแน่ใจเหรอว่าจะจัดการกับอเล็กซานเดอร์ได้? เขาไม่ใช่คนที่จะควบคุมง่ายๆ”

“ฉันไม่ได้จะควบคุมเขา” เธอตอบพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้พ่อ “แต่ฉันจะเป็นคนเดียวที่เขาไม่มีวันลืม”

เธอพูดจบก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องรับรอง ทิ้งให้พ่อของเธอยืนมองตามอย่างครุ่นคิด

เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นหินอ่อนดังขึ้นอย่างมีจังหวะ แอนนาเลียรู้สึกถึงความตื่นเต้นในหัวใจ นี่ไม่ใช่แค่การเดินทางไปทำงานธรรมดา แต่มันคือเกมที่เธอจะลงสนาม และเธอมั่นใจว่าเธอจะเป็นฝ่ายชนะ...

ขณะเดียวกัน แสงไฟจากตึกระฟ้าในนิวยอร์กสาดกระทบกระจกหน้าต่างบานใหญ่ เงาสะท้อนของ อเล็กซานเดอร์ แบล็ควูด ยืนเด่นอยู่กลางห้อง ท่ามกลางความหรูหราที่ดูเหมือนสมบูรณ์แบบ แต่ลึกลงไปในดวงตาคู่เขียวมรกตนั้นกลับเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเงื่อนปมที่ไม่เคยคลี่คลาย

เขาหยิบกรอบรูปจากมุมห้องขึ้นมาดูอีกครั้ง ภาพหญิงสาวและเด็กชายที่เคยเป็นทั้งหัวใจและโลกทั้งใบของเขา ดวงตาของอเล็กซานเดอร์มืดครึ้มไปด้วยความทรงจำที่ยังคงตามหลอกหลอน

สิบห้าปีก่อน – ชีวิตที่เคยสมบูรณ์แบบ

"อเล็กซ์! อย่าลืมกลับมาเร็วนะ วันนี้เป็นวันเกิดของเฮนรี่!" เสียงใสของ เอลิซาเบธ ภรรยาของเขาเอ่ยขึ้นขณะเธออุ้มลูกชายวัยสามขวบ อเล็กซานเดอร์ที่ยังเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงในตอนนั้นส่งยิ้มตอบ ก่อนจะคว้าเสื้อโค้ตและหอมหน้าผากเธอเบาๆ

"ผมสัญญา คุณทั้งสองคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม" เขากล่าว พลางมองเอลิซาเบธและเฮนรี่ที่หัวเราะอย่างมีความสุข

ในวันนั้น ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ อเล็กซานเดอร์กำลังจะปิดดีลครั้งใหญ่ในธุรกิจคาสิโนที่ลาสเวกัส และเขาเชื่อว่าความมั่นคงทางการเงินจะช่วยให้ครอบครัวของเขาไม่ต้องเผชิญกับความลำบากอีกต่อไป

แต่ในระหว่างทางกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นการประชุม เขาได้รับโทรศัพท์ที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

“คุณแบล็ควูด… เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เอลิซาเบธและเฮนรี่…” เสียงปลายสายเงียบลงหลังเอ่ยประโยคสุดท้าย "พวกเขาไม่รอดครับ"

โลกของอเล็กซานเดอร์พังทลาย เขารีบเดินทางไปยังโรงพยาบาลเพื่อพบร่างไร้วิญญาณของคนที่เขารักที่สุด ดวงตาของเอลิซาเบธยังคงปิดสนิท ราวกับเธอกำลังหลับสนิท แต่ไม่มีวันตื่นขึ้นมาอีก

ปัจจุบัน – เกมที่ยังไม่จบ

เสียงแก้วบรั่นดีถูกวางลงบนโต๊ะเบาๆ ดึงเขากลับมาสู่ความเป็นจริง อเล็กซานเดอร์มองไพ่เอซโพดำในมือ มันเป็นสิ่งเดียวที่เขาเก็บไว้จากกระเป๋าเงินของเอลิซาเบธในวันนั้น

เขาไม่เคยให้อภัยตัวเองที่เลือกงานแทนครอบครัวในวันนั้น ความรู้สึกผิดกัดกินเขาไปทุกวินาที นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงจากชายหนุ่มผู้เชื่อในความรัก ให้กลายเป็น "The Taurus King" ชายผู้ไม่เชื่อในความรักอีกต่อไป

แต่เกมนี้ยังไม่จบ…

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ชื่อ "แอนนาเลีย" ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ อเล็กซานเดอร์หยิบมันขึ้นมาก่อนจะปล่อยให้เสียงหยุดลงโดยไม่กดรับ เขารู้ว่าเธอคือผู้หญิงที่อันตรายไม่ต่างจากเขา หญิงสาวผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเร้นลับและแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทาน

“บางที...เธออาจเป็นคนเดียวที่พร้อมจะพลิกเกมนี้” เขากล่าวเบาๆ พร้อมรอยยิ้มมุมปากที่แฝงไปด้วยความท้าทาย

เขาคือเจ้ามือ แต่ครั้งนี้…บางทีเธออาจเป็นผู้ชนะ


... ⋆。♔˚. ...


การพบกันครั้งแรกของอเล็กซานเดอร์และแอนนาเลียในเกมที่ไม่อาจคาดเดาได้ ในเกมที่เริ่มต้น:

แสงไฟสลัวจากโคมระย้าสีทองสะท้อนเงาอันลึกลับบนโต๊ะประชุมทรงยาวที่ประดับด้วยไม้โอ๊คขัดมัน อเล็กซานเดอร์ แบล็ควูด นั่งเอนตัวในเก้าอี้หนังสีดำ ด้วยท่าทีที่สง่างามและสงบนิ่ง สายตาคมกริบของเขามองผ่านแฟ้มเอกสารตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจนัก เสียงนาฬิกาบนผนังดังเป็นจังหวะเดียวที่ขัดจังหวะความเงียบในห้องประชุม

ประตูบานใหญ่เปิดออกอย่างแรงจนเสียงสะท้อนไปทั่วทั้งห้อง ทุกสายตาหันไปมองยังต้นตอของเสียง และสิ่งที่พวกเขาเห็นก็ทำให้ต้องนิ่งงันไปชั่วขณะ แอนนาเลีย โบวาร์ด ในชุดสูทกระโปรงสีดำเข้ารูปที่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบหรูแต่แฝงความเย้ายวนทุกอณู กำลังก้าวเข้ามาด้วยท่วงท่าสง่างาม ผมสีช็อกโกแลตยาวประบ่าของเธอปล่อยสยายอย่างตั้งใจ ริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงก่ำยกรอยยิ้มมาไว้ที่มุมปากบางๆ สื่อถึงความมั่นใจที่เกินวัยของเธอ

สายตาของอเล็กซานเดอร์สบเข้ากับดวงตาสีเทาหม่นของแอนนาเลียในทันที มันไม่ได้เป็นการมองธรรมดา แต่กลับเหมือนการประลองกันในสนามรบที่ทั้งสองฝ่ายกำลังวัดใจซึ่งกันและกัน

“คุณมาสาย” เสียงทุ้มต่ำของอเล็กซานเดอร์ดังขึ้น แม้จะเรียบนิ่ง แต่ก็แฝงด้วยอำนาจที่ทำให้ใครต่อใครรู้สึกเหมือนถูกกดดัน

“ฉันไม่ได้มาประชุม” แอนนาเลียตอบกลับอย่างเยือกเย็น เธอวางกระเป๋าถือใบเล็กบนโต๊ะประชุมก่อนจะยืนพิงมันด้วยท่าทีที่ทำให้ทุกคนในห้องอดไม่ได้ที่จะจับจ้อง

“แล้วคุณมาที่นี่ทำไม?” เขาถาม ดวงตาเขียวมรกตนั้นจับจ้องเธอไม่วางตา

เธอยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มเย็นปรากฏบนใบหน้า “ฉันมาที่นี่เพื่อทำให้คุณจำได้ว่าฉันเป็นใคร”

อเล็กซานเดอร์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “จำคุณ? ผมไม่ได้ขี้ลืมขนาดนั้น... แอนนาเลีย” เสียงของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเอ่ยชื่อเธอ ดวงตาสีมรกตวาววับเหมือนกำลังประเมินเกมที่เพิ่งเริ่มต้น

เธอหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะนั้นเหมือนดนตรีที่แฝงไว้ด้วยการเย้ยหยันเล็กๆ “ดีใจที่ยังจำชื่อฉันได้ค่ะ แต่ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อให้คุณแค่จำชื่อ”

เธอก้าวเข้าไปใกล้โต๊ะอย่างช้าๆ ส้นสูงของเธอกระทบพื้นหินอ่อนส่งเสียงก้องในห้องที่เงียบสนิท ทุกคนที่อยู่รอบข้างมองเธอด้วยความทึ่งปนหวาดหวั่น และเมื่อเธอหยุดยืนตรงหน้าอเล็กซานเดอร์ เธอก็ย่อตัวลงเล็กน้อย วางมือบางของเธอบนโต๊ะจนเงาสะท้อนของแหวนเพชรที่นิ้วกระทบแสงไฟ

“ฉันมาเพื่อจะเป็นเลขาส่วนตัวของคุณ” เธอเอ่ยอย่างมั่นใจ

เขาเลิกคิ้วขึ้นอีกครั้งพร้อมเอนตัวพิงเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย “เลขาส่วนตัว? คุณเคยทำงานมาก่อนหรือเปล่า?”

“ฉันเรียนรู้เร็ว และฉันมั่นใจว่าฉันจะทำได้ดีกว่าที่คุณคิด” เธอยิ้ม รอยยิ้มนั้นชวนให้ใครก็ตามที่มองต้องรู้สึกถึงความท้าทาย

“ถ้าผมปฏิเสธล่ะ?” เขาถามกลับ ดวงตาของเขายังจับจ้องเธอราวกับกำลังรอการตอบโต้

“คุณจะไม่ปฏิเสธฉันหรอกค่ะ” เธอเอ่ยเสียงเบาแต่มั่นคง ดวงตาของเธอสบกับเขาโดยไม่หลบเลี่ยง “เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่มีวันปล่อยให้โอกาสได้เผชิญหน้ากับใครสักคนที่สามารถทำให้คุณเสียการควบคุมได้หลุดลอยไป”

อเล็กซานเดอร์นิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “เสียการควบคุม? น่าสนใจ…”

แอนนาเลียยืนตัวตรงอีกครั้ง ดึงสายตาทุกคนให้จดจ้องไปที่เธอด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยพลัง “ฉันจะเริ่มงานพรุ่งนี้เช้า... คุณจะได้เห็นว่าฉันไม่ใช่เด็กผู้หญิงในความทรงจำของคุณอีกต่อไปแล้ว”

และก่อนที่เขาจะทันตอบ เธอก็หมุนตัวเดินออกไป ทิ้งกลิ่นหอมบางเบาของน้ำหอมที่ทำให้บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความลึกลับ

อเล็กซานเดอร์มองตามแผ่นหลังของเธอด้วยสายตาที่แฝงความขบขันเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมาที่โต๊ะแล้วหยิบไพ่ใบเดิมขึ้นมาหมุนในมือ

“เธอคือเกมที่ฉันอยากเล่น” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ

เสียงประตูปิดลง ความเงียบกลับมาปกคลุมห้องประชุมอีกครั้ง... แต่ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างรู้สึกได้ว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ยากจะหยุดยั้งได้.


... ⋆。♔˚. ...


แสงแดดยามเช้าสาดผ่านกระจกบานใหญ่ของเพนต์เฮาส์สำนักงาน "Crown Royale" ที่ตั้งอยู่บนตึกสูงระฟ้ากลางมหานครนิวยอร์ก ห้องทำงานส่วนตัวของอเล็กซานเดอร์ แบล็ควูด ตกแต่งด้วยโทนสีเข้มที่สะท้อนถึงความหรูหราและทรงอำนาจ เฟอร์นิเจอร์ไม้โอ๊คแท้เคลือบมันเงาสลับกับหนังชั้นดีส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ของความสำเร็จ

อเล็กซานเดอร์นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ขยับมือเปิดดูเอกสารสำคัญก่อนการประชุม เขาไม่คาดหวังอะไรมากนักจากหญิงสาวที่ดื้อรั้นและมั่นใจในตัวเองอย่างเกินขอบเขต แอนนาเลีย โบวาร์ด หญิงสาวที่เขาเคยรู้จักในฐานะ "เด็กน้อย" กลับมายืนอยู่ต่อหน้าเขาในฐานะเลขาส่วนตัว หัวใจเขาไม่อาจต้านทานเสน่ห์และความมั่นใจที่เธอนำมาพร้อมกับความลึกลับที่ชวนค้นหา

เสียงส้นรองเท้าของแอนนาเลียดังขึ้นขณะที่เธอเดินเข้ามาพร้อมกับถาดกาแฟ เงินทองจากแสงไฟสะท้อนที่สร้อยข้อมือของเธอ เธอสวมชุดสูทสีครีมตัดเย็บอย่างประณีตเข้ารูป โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งพอให้เห็นความงามที่แฝงไว้ด้วยความอ่อนช้อยแต่มีอำนาจ

“นี่กาแฟที่คุณโปรดปรานค่ะ ดับเบิลเอสเปรสโซ่ไม่ใส่น้ำตาล” เธอวางถาดลงเบาๆ ต่อหน้าเขา ดวงตาสีเทาหม่นสบตาเขาราวกับจะอ่านความคิดทุกอย่างของชายหนุ่มตรงหน้า

“คุณรู้ได้ยังไงว่าผมชอบอะไรแบบนี้?” อเล็กซานเดอร์ถาม น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

“ฉันอ่านประวัติของคุณค่ะ รวมถึงสัมภาษณ์เก่าๆ ทุกฉบับ ฉันอยากแน่ใจว่าฉันจะไม่พลาด” เธอยิ้ม รอยยิ้มนั้นไม่ได้แค่มั่นใจแต่ยังแฝงความยั่วยวนที่อเล็กซานเดอร์รับรู้ได้ทันที

“ประทับใจ” เขากล่าวสั้นๆ ก่อนจะจิบกาแฟ “แต่มันยังไม่พิสูจน์อะไร”

แอนนาเลียไม่ตอบ เธอเดินไปที่โต๊ะกระจกใสด้านข้าง หยิบแท็บเล็ตขึ้นมาเปิดไฟล์พรีเซนเทชัน จากนั้นเชื่อมต่อหน้าจอไปยังโปรเจกเตอร์ในห้อง

“นี่เป็นรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาและแผนกลยุทธ์ที่จะใช้ในงานกาล่าของเราในอีกสองเดือนข้างหน้า ฉันรวบรวมข้อมูลจากทีมการตลาดและฝ่ายประชาสัมพันธ์ คุณอาจอยากดูข้อเสนอนี้ก่อน”

อเล็กซานเดอร์เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ตัวเลขและแผนการตลาดที่ปรากฏบนจอ มันครบถ้วนและชัดเจนอย่างไม่น่าเชื่อ

“คุณทำทั้งหมดนี่เอง?” เขาถาม สายตาไม่ละจากหน้าจอ

“ค่ะ ฉันใช้เวลาทั้งคืน... ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นเล็กๆ” เธอตอบพร้อมรอยยิ้ม ดวงตาคู่นั้นเป็นประกายเหมือนหญิงสาวที่รู้ดีว่าเธอทำได้เกินมาตรฐาน

อเล็กซานเดอร์พยักหน้าเบาๆ แต่ยังไม่หลุดคำชมง่ายๆ “แล้วตัวเลขนี้ล่ะ? มันคาดการณ์ขึ้นมาจากอะไร?”

“ข้อมูลสถิติการใช้จ่ายของลูกค้าชั้นสูงในงานที่ผ่านมาค่ะ ฉันรวบรวมพฤติกรรมการใช้จ่ายจากกิจกรรมพิเศษที่คุณจัด และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจในปัจจุบัน”

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ความมั่นใจที่แอนนาเลียแสดงออกมาช่างน่าทึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เขาหยุดคิดคือความละเอียดอ่อนในงานของเธอ

“เก่งมาก...” เขาพึมพำ น้ำเสียงแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความชื่นชม

การล่อลวงที่แฝงในความมุ่งมั่น

หลังการประชุมยาว แอนนาเลียเดินเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของอเล็กซานเดอร์อีกครั้ง เธอถือแฟ้มรายงานในมือแต่สายตากลับไม่ได้อยู่ที่เอกสาร

“นี่คือรายงานที่คุณขอค่ะ” เธอวางมันลงบนโต๊ะ ใกล้กับที่เขานั่งจนกลิ่นน้ำหอมจางๆ ลอยมาแตะปลายจมูก

อเล็กซานเดอร์เงยหน้ามอง รู้สึกถึงความใกล้ชิดและออร่าของหญิงสาวที่ไม่อาจละสายตา “แอนนาเลีย คุณรู้อะไรไหม?”

“คะ?” เธอเอนตัวเข้าใกล้เขาเล็กน้อย ท่าทางไร้เดียงสาแต่กลับเร้าความรู้สึกอย่างน่าประหลาด

“คุณอันตราย... อันตรายมาก” เขาพูดเบาๆ แต่ชัดเจน

เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปอีก ริมฝีปากของเธอแทบจะแตะใบหูของเขา “บางทีคุณอาจชอบอะไรที่อันตราย... ไม่ใช่เหรอคะ?”

เสียงนั้นราวกับกระซิบแต่แฝงไว้ด้วยความมั่นใจและการยั่วยวน อเล็กซานเดอร์ไม่ตอบ แต่ดวงตาของเขาที่ลุกวาวนั้นบอกชัดว่าหญิงสาวตรงหน้าเริ่มกุมเกมไว้ในมือ

แอนนาเลียถอยออกมาอย่างสง่างาม ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้อง ทิ้งเขาให้นั่งนิ่งด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“เกมนี้... อาจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด” เขาพึมพำกับตัวเอง รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นบนใบหน้า

นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น...


... ⋆。♔˚. ...


เสียงคลื่นเบาๆ จากบรรยากาศในเลานจ์สุดหรูที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของ "Crown Royale" เป็นเพียงเสียงเดียวที่แทรกความเงียบระหว่างพวกเขา อเล็กซานเดอร์ แบล็ควูด ยืนอยู่ที่ระเบียง ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองทิวทัศน์ของเมืองนิวยอร์กในยามค่ำคืน แสงไฟจากตึกสูงตระการตาสะท้อนในดวงตาเขา แต่มันไม่อาจกลบความคิดวุ่นวายที่กำลังก่อตัวขึ้นในหัวใจ

ในขณะเดียวกัน แอนนาเลีย โบวาร์ด ก้าวเข้ามาในเลานจ์อย่างเงียบเชียบ เธอสวมชุดราตรีสีดำผ่าสูงที่เน้นเส้นโค้งของร่างกายได้อย่างไร้ที่ติ ผ้าซาตินสะท้อนแสงไฟรางๆ ยิ่งขับให้เธอดูเหมือนเทพธิดาที่หลุดมาจากภาพวาดยุคเรอเนซองส์

"คุณมาที่นี่เพื่อพักผ่อน หรือมาสอดแนมว่าฉันทำงานดีพอหรือยังคะ?" เธอเอ่ยขึ้นเบาๆ ราวกับกำลังล้อเลียน แต่ดวงตาสีเทาหม่นนั้นมีประกายเจ้าเล่ห์ที่บ่งบอกว่าคำพูดนั้นมีความหมายซ่อนเร้นมากกว่าที่แสดงออก

อเล็กซานเดอร์หันมามองเธอ สายตาของเขาละจากทิวทัศน์เมืองและมาหยุดที่เธอแทน "ผมกำลังสงสัยว่าคุณพักบ้างหรือเปล่า งานของคุณ... มันสมบูรณ์แบบเกินไปจนผมเริ่มสงสัยว่าใครช่วยคุณทำ"

เธอหัวเราะเสียงเบา ริมฝีปากสีแดงก่ำเผยยิ้มที่ยั่วยวน "นั่นเป็นคำชมใช่ไหมคะ?"

"ถือว่าใช่ก็แล้วกัน" เขาตอบ พลางยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ท่าทางของเขายังคงสงบนิ่งและมั่นคง แต่ภายในใจกลับปั่นป่วน

แอนนาเลียเดินเข้าไปใกล้เขา ยืนพิงราวระเบียงด้วยท่วงท่าที่เป็นธรรมชาติ แต่แฝงความดึงดูดในทุกการเคลื่อนไหว กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอลอยมาปะปนกับกลิ่นอายของลมยามค่ำคืน

"คุณเคยคิดไหมคะ ว่าในบางครั้ง ความสมบูรณ์แบบไม่ได้มาจากการทำงานหนักเพียงอย่างเดียว แต่มาจากแรงผลักดันที่ถูกต้อง?"

"แรงผลักดัน?" เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

เธอหันมามองเขา ใกล้พอที่เขาจะเห็นประกายบางอย่างในดวงตาของเธอ "บางทีแรงผลักดันของฉันอาจมาจากการอยากทำให้ใครบางคนประทับใจ"

คำพูดนั้นทำให้เขาชะงักไปครู่หนึ่ง สายตาของเขาจับจ้องไปที่เธอราวกับพยายามอ่านความจริงจากดวงตาคู่นั้น

"และใครบางคนนั้นคือใคร?" เขาถาม เสียงของเขาต่ำลงเล็กน้อย แฝงด้วยน้ำเสียงที่ยากจะเดา

แอนนาเลียเพียงยิ้ม รอยยิ้มนั้นเหมือนคำตอบที่ไม่ต้องการคำอธิบาย เธอหันกลับไปมองวิวเมือง "ฉันว่า... คุณรู้คำตอบอยู่แล้วค่ะ"

ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างพวกเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับเต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่ไม่อาจปฏิเสธได้

ฉากต่อ: ความใกล้ชิดที่ไม่ตั้งใจ

เช้าวันรุ่งขึ้น แอนนาเลียปรากฏตัวในห้องทำงานของอเล็กซานเดอร์พร้อมถาดกาแฟและเอกสารงานที่เธอเตรียมมาอย่างดี

"คุณดูเหมือนคนที่พักผ่อนไม่พอ" เขาเอ่ยขณะเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงาน

"ถ้าฉันดูเหนื่อย นั่นคงเป็นเพราะฉันตั้งใจทำงานหนักเพื่อคุณค่ะ" เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงยั่วเย้าเล็กน้อย วางกาแฟลงตรงหน้าเขา

อเล็กซานเดอร์รับถ้วยกาแฟไป สายตาของเขาไม่ได้ละจากเธอแม้แต่วินาทีเดียว "คุณรู้ไหม แอนนาเลีย คุณทำให้ผมลำบากใจ"

"ลำบากใจ? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ" เธอเอียงคอเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกาย "หรือคุณแค่ไม่ชินกับการที่มีใครบางคนรู้ทันคุณ?"

เขายิ้มบางๆ แต่กลับไม่ตอบคำถาม

แอนนาเลียก้าวเข้าไปใกล้เขาอีกเพียงก้าวเดียว ร่างกายของเธออยู่ใกล้พอที่เขาจะสัมผัสถึงความอบอุ่น "คุณอาจคิดว่าคุณควบคุมทุกอย่างได้ แต่บางที... เกมนี้อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณคนเดียวแล้วล่ะค่ะ"

อเล็กซานเดอร์รู้สึกเหมือนโดนท้าทาย แต่แทนที่จะตอบโต้ เขาเลือกที่จะจ้องมองเธอด้วยสายตาที่แฝงความลึกซึ้ง

ในที่สุด เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงต่ำ "คุณต้องระวังนะ แอนนาเลีย เพราะเกมที่คุณเล่นอยู่... มันมีเส้นบางๆ ระหว่างชัยชนะและการเสียใจ"

เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะก้าวถอยหลัง "ถ้าฉันจะเสียใจ... อย่างน้อยฉันก็จะรู้ว่าฉันได้ลอง"

เขาจ้องมองเธอขณะที่เธอเดินออกจากห้อง ทิ้งเขาให้นั่งอยู่กับความคิดของตัวเอง รู้ตัวดีว่าเกมนี้กำลังดึงเขาเข้าไปทีละนิด จนเขาไม่แน่ใจว่าใครกันแน่ที่กำลังถือไพ่เหนือกว่า

หมายเหตุ: ฉากนี้ช่วยแสดงถึงความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดและความท้าทาย ทั้งยังแฝงความโรแมนติกและการยั่วยวนที่เข้ากับนิสัยและแรงขับเคลื่อนของตัวละครทั้งสอง

ฉาก: การท้าทายเชิงธุรกิจ – ปัญหาภายในคาสิโนและแรงดึงดูดที่เพิ่มขึ้น

ในห้องประชุมสุดหรูของ Eclipse Royale เสียงฮือฮาเบาๆ ของบอร์ดบริหารสะท้อนก้อง อเล็กซานเดอร์ แบล็ควูด นั่งที่หัวโต๊ะ สายตาสีเขียวเฉียบขาดกวาดมองทุกคนที่อยู่รอบห้อง ท่าทีของเขาเยือกเย็นและทรงพลัง แต่เบื้องหลังนั้นเต็มไปด้วยความกังวล

ปัญหาใหม่ที่ทำให้ธุรกิจคาสิโนต้องสะดุดคือการรั่วไหลของข้อมูลลูกค้า VIP ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับชื่อเสียงอย่างมหาศาล ลูกค้าระดับสูงเริ่มถอนตัวออกไปทีละคน และข่าวลือนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในวงการ

"นี่มันหายนะชัดๆ!" หนึ่งในบอร์ดบริหารตะโกน "ถ้าเราไม่รีบแก้ไข อนาคตของคาสิโนอาจจบลงที่นี่!"

อเล็กซานเดอร์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “ผมต้องการทางออก และมันต้องเป็นวิธีที่ได้ผลทันที ใครมีข้อเสนอ?”

ความเงียบโรยตัวในห้องประชุม ก่อนที่เสียงเรียบเย็นของแอนนาเลีย โบวาร์ดจะดังขึ้น เธอนั่งอยู่ที่มุมห้อง ไขว้ขาอย่างสง่างามในชุดสูทที่เน้นความมั่นใจและเสน่ห์ “บางที... ทางออกไม่ได้อยู่ที่การไล่ล่าข้อมูลรั่วไหล แต่คือการทำให้ลูกค้ากลับมามั่นใจว่าเราคือที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับพวกเขา”

ทุกสายตาหันไปจับจ้องเธอ รวมถึงอเล็กซานเดอร์ที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย

“คุณมีวิธีอะไร?” เขาถามด้วยน้ำเสียงกึ่งเย้ยหยัน

เธอยิ้มมุมปาก “ง่ายมากค่ะ เราจัดงาน Royal Vault Experience เชิญเฉพาะลูกค้า VIP มาร่วมงานที่เราจะแสดงความโปร่งใสในการดูแลข้อมูลและความเป็นส่วนตัว แถมเพิ่มโปรแกรมพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า เช่น การรับประกันคืนเงิน หรือรางวัลพิเศษ หากพวกเขากลับมาใช้บริการ”

“และคุณคิดว่ามันจะได้ผล?”

เธอเอนตัวไปข้างหน้า สบตาเขาอย่างกล้าหาญ “มันจะได้ผลค่ะ เพราะคนเหล่านี้ต้องการแค่ความมั่นใจ ไม่ใช่แค่คำแก้ตัว”

บรรยากาศในห้องประชุมเปลี่ยนไปทันที อเล็กซานเดอร์ยังคงนิ่ง แต่ดวงตาของเขาแฝงความสนใจ

สองวันต่อมา แอนนาเลียและอเล็กซานเดอร์นั่งทำงานร่วมกันในห้องทำงานของเขา รายละเอียดของงาน Royal Vault Experience ถูกปรับแต่งอย่างพิถีพิถัน ทุกครั้งที่เธอเสนอความคิด เขามักท้าทายเธอด้วยคำถามที่เฉียบคม แต่เธอกลับตอบโต้ได้อย่างมั่นใจ

“ฉันจะเพิ่มทีมรักษาความปลอดภัยสำหรับงาน และใช้เทคโนโลยีสแกนข้อมูลใหม่ที่ไม่เคยมีใครใช้ในคาสิโนมาก่อน” เธอพูด พร้อมเลื่อนแฟ้มไปให้เขาดู

อเล็กซานเดอร์อ่านรายละเอียดก่อนจะเลิกคิ้ว “คุณรู้ไหมว่ามันมีค่าใช้จ่ายสูงมาก?”

เธอยิ้มบางๆ “แต่ความเชื่อมั่นไม่มีราคาค่ะ”

เขาเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว และนั่นทำให้แอนนาเลียสังเกตเห็น เธอหยุดมองเขาเพียงชั่วครู่ ก่อนจะพูดแทรก “คุณกำลังเริ่มเชื่อใจฉันใช่ไหม?”

เขาวางแฟ้มลง จ้องเธอนิ่ง “ผมยังไม่ไว้ใจคุณหรอก แอนนาเลีย คุณดูเหมือนคนที่มองทุกอย่างเป็นเกมสนุก และผมไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งในเกมนั้น”

เธอกล้าพอที่จะเดินเข้ามาใกล้เขาอีกก้าวจนระยะห่างระหว่างพวกเขาแทบไม่มี “บางที... คุณก็แค่กลัวว่าคุณจะเล่นเกมนี้แพ้”

เขาลุกขึ้นยืน ตอนนี้ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน สายตาของเขาเต็มไปด้วยแรงดึงดูดและคำเตือน “คุณกำลังเดินเส้นบางๆ ระหว่างความกล้ากับความอันตรายนะ แอนนาเลีย”

เธอยิ้มอย่างท้าทาย “แต่คุณก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ และเล่นเกมนี้กับฉัน”


... ⋆。♔˚. ...


งาน Royal Vault Experience เป็นไปอย่างราบรื่น ลูกค้า VIP ที่เคยถอนตัวเริ่มกลับมา ภาพลักษณ์ของ Eclipse Royale ฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

อเล็กซานเดอร์ยืนมองแขกในงานจากระเบียงชั้นบน ดวงตาของเขาจับจ้องแอนนาเลียที่ยืนคุยกับลูกค้าอย่างมั่นใจ เสน่ห์และไหวพริบของเธอทำให้ทุกสายตาหันมาสนใจ

“คุณทำได้ดี” เขาพูดเมื่อเธอเดินเข้ามาหา

“เพราะฉันเก่ง หรือเพราะคุณเริ่มยอมรับว่าฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเล่นเกมกันแน่คะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงเย้าหยอก

เขามองเธอ สายตาแฝงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน “บางทีคุณอาจเป็นได้ทั้งสองอย่าง”

และในชั่วขณะที่เธอหันกลับไป เขารู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาเริ่มหวั่นไหวไปกับเกมที่เธอกำลังเล่น แต่เขายังไม่แน่ใจว่าใครกันแน่ที่ถือไพ่เหนือกว่า

... ⋆。♔˚. ...

ในค่ำคืนที่ดวงไฟหลากสีส่องประกายระยิบระยับทั่วห้องจัดเลี้ยงสุดหรูของ Eclipse Royale เสียงเพลงคลาสสิกบรรเลงคลอเคลียบรรยากาศ เสริมด้วยกลิ่นหอมของไวน์ชั้นเลิศที่ถูกเสิร์ฟอย่างต่อเนื่อง

แขกผู้มีเกียรติต่างร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งใหญ่ของคาสิโน ที่สามารถฟื้นฟูชื่อเสียงและดึงลูกค้า VIP กลับมาได้อย่างสง่างาม อเล็กซานเดอร์ แบล็ควูด ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนในชุดสูทสีดำสนิท เพิ่มเสน่ห์ด้วยเนกไทสีเงินที่ตัดกับสายตาเฉียบคมของเขา ข้างกายมีแอนนาเลีย โบวาร์ด ผู้หญิงที่เปล่งประกายด้วยชุดราตรียาวสีแดงเพลิง เผยผิวเนียนละเอียดและส่วนโค้งเว้าที่ยากจะละสายตา

"คุณดูสวยมากในคืนนี้" เสียงของอเล็กซานเดอร์ดังขึ้นเบาๆ ใกล้หูเธอ แต่ก่อนที่เธอจะได้ตอบอะไร เสียงฮือฮาของผู้คนก็ดังขึ้นจากทางด้านหน้า

หญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง นางแบบชื่อดังในชุดเดรสสีเงินวาววับที่ราวกับสร้างขึ้นมาเพื่อเธอโดยเฉพาะ เธอคือนาตาชา แวนเดอเบิร์ก แอมบาสเดอร์ของ Eclipse Royale และเป็นผู้หญิงที่เคยตกเป็นข่าวกับอเล็กซานเดอร์หลายต่อหลายครั้ง

แอนนาเลียหันไปสบตาอเล็กซานเดอร์ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก แม้จะพยายามทำใจเย็น แต่ลึกๆ แล้วเธอกลับรู้สึกไม่พอใจที่เห็นเขายิ้มรับการปรากฏตัวของนาตาชา

"คุณเชิญเธอมาด้วยเหรอ?" เธอถามเสียงเรียบ แต่แฝงแววตาคมกริบ

"เธอเป็นแอมบาสเดอร์ของเรา และคืนนี้ก็มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ มันก็สมเหตุสมผล" เขาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

นาตาชาเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะทักทายอเล็กซานเดอร์ด้วยท่าทางสนิทสนม “อเล็กซ์ คุณดูดีขึ้นทุกครั้งที่เจอกันเลยนะคะ”

“ขอบคุณครับ คุณก็ดูงดงามเช่นเคย” เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มบาง

สายตาของนาตาชาหันไปมองแอนนาเลียตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยเหมือนดูแคลน “ดูเหมือนคุณจะมีผู้ช่วยคนใหม่แล้วสินะคะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกอย่างถึงสำเร็จได้ขนาดนี้”

แอนนาเลียรู้ทันทีว่านาตาชากำลังพยายามยั่วยุ เธอสูดหายใจลึก ก่อนจะยิ้มบางๆ อย่างใจเย็น “ฉันไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วยหรอกค่ะ แต่เป็นคนที่ช่วยดึงคุณกลับมาจากข่าวฉาวด้วยซ้ำ”

นาตาชายิ้มค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเปลี่ยนท่าที “งั้นคุณคงเหนื่อยมากเลยสิคะ กับการคอยตามล้างตามเช็ดเรื่องต่างๆ”

“เหนื่อยค่ะ” แอนนาเลียตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “แต่สำหรับฉัน มันก็คุ้ม เพราะอย่างน้อย... ฉันทำทุกอย่างด้วยความสามารถ ไม่ใช่ด้วยชื่อเสียงหรือรูปลักษณ์”

บรรยากาศรอบข้างเริ่มเปลี่ยนไป แขกบางคนที่ได้ยินการโต้ตอบเริ่มหันมามอง ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน ในขณะที่อเล็กซานเดอร์มองสถานการณ์ด้วยความสนใจ

นาตาชาพยายามจะพูดอะไรบางอย่างต่อ แต่แอนนาเลียกลับเดินเข้าไปใกล้กว่าเดิม เธอเอนตัวเข้าไปกระซิบใกล้หูของนาตาชาด้วยรอยยิ้มที่ดูสง่างาม “ฉันหวังว่าคุณจะสนุกกับค่ำคืนนี้นะคะ เพราะงานนี้... ฉันเป็นเจ้าภาพ”

นาตาชาถอยหลังไปเล็กน้อย ความมั่นใจที่เคยมีเริ่มสั่นคลอน อเล็กซานเดอร์มองแอนนาเลียด้วยแววตาชื่นชม เขาไม่คิดว่าเธอจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างมีชั้นเชิงเช่นนี้

“ผมคิดว่าคุณทำได้ดีมาก” เขากระซิบเมื่อเธอกลับมายืนข้างเขา “คุณสงบเยือกเย็นกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก”

เธอหันไปยิ้มเล็กน้อย “ฉันไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรไร้เหตุผลหรอกค่ะ... แต่ก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะยอมให้ใครมาหยามหน้าได้ง่ายๆ”

อเล็กซานเดอร์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปหาเธอ “งั้นผมขอพาคุณไปเต้นรำ เพื่อตอบแทนที่ทำให้ค่ำคืนนี้ราบรื่น”

เธอมองเขา ก่อนจะวางมือลงบนมือของเขาอย่างเชื่อมั่น และทั้งสองก็ก้าวไปยังฟลอร์เต้นรำ ท่ามกลางสายตาของแขกในงานที่จับจ้อง พวกเขาทั้งคู่เคลื่อนไหวไปตามเสียงเพลงราวกับเป็นคู่ที่เกิดมาเพื่อกันและกัน

และในชั่วขณะที่เขาประคองเธอไว้ใกล้ๆ อเล็กซานเดอร์ก็รู้สึกได้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังเปลี่ยนเกมชีวิตของเขาไปตลอดกาล


... ⋆。♔˚. ...


หลังจากงานเลี้ยงจบลง แขกส่วนใหญ่เริ่มทยอยกลับ เหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังอยู่พูดคุยกันในบรรยากาศผ่อนคลาย อเล็กซานเดอร์กับแอนนาเลียเดินตรวจความเรียบร้อยของงานตามหน้าที่ เมื่อเดินมาถึงห้องใต้ดินเก็บไวน์ซึ่งใช้เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของงาน Royal Vault Experience แอนนาเลียขอเข้ามาดูอีกครั้งด้วยความสนใจ ดวงตาคมเฉี่ยวของเธอสะท้อนความอยากรู้อยากเห็นเล็กๆ

“อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยลงมาที่นี่” เสียงทุ้มต่ำของอเล็กซานเดอร์ดังขึ้นจากด้านหลัง เขาเดินเข้ามาใกล้ มือข้างหนึ่งถือกุญแจไวน์เก่าแก่

“ยังค่ะ คุณคงไม่ว่าอะไรถ้าฉันจะขอสำรวจดูหน่อย” เธอหันมายิ้มบางๆ ก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในห้องใต้ดินอันเย็นยะเยือก

ภายในห้องเก็บไวน์นั้นเต็มไปด้วยไวน์หลากหลายชนิดที่เรียงรายอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นของไม้โอ๊กจากถังบ่มและความเย็นจากอุณหภูมิที่ควบคุมไว้ทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบ

“ไวน์พวกนี้คุณเก็บสะสมเองหมดเลยหรือคะ?” แอนนาเลียเอ่ยถาม พลางใช้ปลายนิ้วแตะขวดไวน์ที่เรียงอยู่ตรงหน้า

“ส่วนใหญ่ใช่ แต่บางขวดก็เป็นของขวัญจากพันธมิตรทางธุรกิจ” อเล็กซานเดอร์ตอบเสียงเรียบ ก่อนจะเดินไปหยิบไวน์ขวดหนึ่งขึ้นมา

ก่อนที่เธอจะตอบอะไร เสียง คลิก! ก็ดังขึ้นจากประตูที่ถูกปิดสนิทโดยอัตโนมัติเมื่อพนักงานคนสุดท้ายล็อกห้องด้านนอกโดยไม่รู้ว่ามีคนอยู่ข้างใน

“อ้าว... ประตูล็อก?” แอนนาเลียลองผลักดู แต่ก็ไม่เป็นผล

“ดูเหมือนเราจะติดอยู่ที่นี่” อเล็กซานเดอร์พูดอย่างใจเย็น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาลองโทรออก แต่ไม่มีสัญญาณ “โชคไม่ดีเลยที่ห้องนี้อยู่ลึกเกินกว่าจะมีสัญญาณโทรศัพท์”

“ดีเลยค่ะ นี่มันดึกแล้วนะ คุณจะบอกว่าฉันต้องติดอยู่กับคุณทั้งคืนเหรอ?” เธอพูดอย่างประชดประชัน

“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น” เขาตอบพลางถอนหายใจ “แต่คุณก็ไม่ได้ดูตกใจเท่าไหร่นี่”

“ฉันควรตกใจเหรอคะ? จริงๆ ฉันคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะได้คุยกับคุณแบบเปิดอก” เธอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินไปหยิบไวน์ขวดหนึ่งแล้วนั่งลงบนโต๊ะไม้กลางห้อง

“คุยเรื่องอะไร?” เขาถามพลางเดินมานั่งฝั่งตรงข้าม ดวงตาสีเข้มจับจ้องเธออย่างไม่วางตา

“ก็เรื่องที่คุณอยากรู้ไงคะ ว่าฉันต้องการอะไรจากคุณ” เธอยื่นแก้วไวน์ให้เขา ก่อนจะจิบไวน์อย่างช้าๆ ราวกับจงใจยั่วเขา

“แล้วคุณต้องการอะไร?” น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความสงสัยและระแวง

เธอวางแก้วไวน์ลงก่อนจะเอนตัวไปข้างหน้า ใบหน้าสวยเฉียบใกล้เขาในระยะประชิด ดวงตาสีดำขลับฉายแววท้าทาย “ฉันต้องการแต่งงานกับคุณค่ะ”

เขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ “คุณพูดเล่นหรือเปล่า?”

“ฉันดูเหมือนคนที่พูดเล่นเหรอคะ?” เธอยิ้มบางๆ อย่างยั่วเย้า “คุณอายุ 40 แล้วนะคะอเล็กซานเดอร์ ถ้าคุณไม่รีบแต่งงานตอนนี้ คุณคิดว่าคุณจะมีลูกตอนอายุ 80 แล้วใครจะมารับช่วงต่ออาณาจักรใหญ่โตของคุณกัน?”

คำพูดของเธอทำให้อเล็กซานเดอร์ถึงกับหน้าแดงก่ำ ทั้งฉุนทั้งขำ “คุณนี่มัน... ยัยเด็กก๋ากั่นน่าโมโห”

“ฉันพูดเรื่องจริงค่ะ” เธอยิ้มอย่างเหนือกว่า “หรือคุณจะเถียงว่าคุณไม่ได้คิดเรื่องนี้อยู่?”

เขาส่ายหน้าอย่างจนใจ ก่อนจะสบตาเธอ “คุณนี่มันร้ายกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ”

“ขอบคุณค่ะ ฉันถือว่านั่นเป็นคำชม” เธอตอบด้วยน้ำเสียงหวานล้ำ ก่อนจะลุกขึ้นยืน

ในจังหวะนั้นเอง อเล็กซานเดอร์คว้าข้อมือเธอไว้ รั้งเธอให้เข้ามาใกล้ “ถ้าผมแต่งงานกับคุณ คุณจะหยุดเล่นเกมนี้หรือเปล่า?”

“แล้วคุณคิดว่าฉันเล่นเกมกับคุณอยู่เหรอคะ?” เธอถามกลับ น้ำเสียงท้าทาย ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้เขามากขึ้น จนปลายจมูกของทั้งคู่แทบจะแตะกัน

เขาไม่ตอบ แต่เลือกที่จะกระชากเธอเข้ามาใกล้แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธออย่างดุดันและเรียกร้อง

จูบของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งความหงุดหงิด ความท้าทาย และความหวั่นไหวที่เขาพยายามปฏิเสธมาตลอด ขณะที่เธอตอบรับจูบของเขาอย่างไม่เกรงกลัว ความร้อนแรงแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

เมื่อทั้งคู่ผละออกจากกัน เขามองเธอด้วยสายตาที่แฝงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน

“ผมจะถือว่าคุณชนะเกมนี้...ชั่วคราว” เขาพูดเสียงแผ่ว พลางยิ้มเล็กน้อย

“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่ได้ต้องการชนะเกม” เธอกระซิบใกล้ๆ “ฉันต้องการคุณ”

... ⋆。♔˚. ...

หลังจากหลุดออกมาจากห้องเก็บไวน์ใต้ดินได้ไม่นาน แอนนาเลียก็เดินกลับขึ้นมาด้านบน แต่แทนที่จะตรงไปยังห้องพัก เธอกลับมุ่งหน้าไปยังห้องครัวใหญ่ของคฤหาสน์ที่เงียบสนิท ราวกับไม่มีใครอยู่

เธอเปิดตู้เย็นขนาดใหญ่ หยิบขวดน้ำผลไม้ออกมา ก่อนจะเริ่มค้นหาอะไรบางอย่างในลิ้นชัก เธอกำลังหาขนมปังเพื่อรองท้องหลังจากช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนแรงก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่พบสิ่งที่ต้องการ

“หิวเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้นด้านหลัง

แอนนาเลียสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองต้นเสียง อเล็กซานเดอร์ยืนพิงประตูห้องครัว แขนไขว้กันอยู่ตรงอก ใบหน้าเรียบเฉย แต่สายตากลับฉายแววสนุกสนาน

“อย่าทำให้ฉันตกใจสิคะ คุณตามฉันมาทำไม?” เธอถามพลางยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“คุณคิดว่าผมจะปล่อยให้คุณเดินเพ่นพ่านคนเดียวกลางดึกแบบนี้เหรอ?” เขาพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ “แล้วคุณกำลังหาอะไร?”

“ฉันหาขนมปังค่ะ แต่ดูเหมือนมันจะหมด” เธอบ่นเบาๆ พลางเปิดลิ้นชักอีกครั้งอย่างขัดใจ

“หิวจนต้องมาหาอะไรกินตอนตีสองแบบนี้เลย?” เขายิ้มมุมปากก่อนจะเดินไปเปิดตู้เก็บของ “ถ้าคุณรอได้ ผมทำอะไรให้กินดีกว่าไหม?”

“คุณทำอาหารได้ด้วยเหรอ?” เธอถามอย่างไม่เชื่อสายตา

“มากกว่าที่คุณคิด” เขาตอบอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบไข่ไก่ ขนมปัง และชีสออกมา “นั่งรอเถอะ เดี๋ยวผมจะทำแซนด์วิชให้”

แอนนาเลียยอมถอยไปนั่งบนเก้าอี้ตรงเคาน์เตอร์ พลางจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังจัดเตรียมวัตถุดิบอย่างคล่องแคล่ว เธอไม่ได้คาดหวังว่าชายผู้เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่อย่างอเล็กซานเดอร์จะทำอะไรแบบนี้เป็น

“ดูคุณจะทำแบบนี้บ่อยนะคะ” เธอเอ่ยขึ้น หลังจากมองเขาทำอาหารอยู่ครู่หนึ่ง

“บางครั้งการได้ทำอะไรด้วยตัวเองก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้” เขาตอบโดยไม่หันไปมองเธอ มือใหญ่แข็งแรงกำลังทอดขนมปังอย่างใจเย็น กลิ่นหอมของเนยและชีสเริ่มอบอวลไปทั่วห้องครัว

“คุณนี่เป็นคนที่คาดเดาอะไรยากจริงๆ” เธอพูดพลางเท้าคางจ้องเขา ดวงตาคู่สวยฉายแววครุ่นคิด

“นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณสนใจผม” เขาตอบกลับอย่างไม่รีบร้อน พร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ให้เธอ “แล้วคุณล่ะ ชอบทำอาหารไหม?”

“ถ้าฉันบอกว่าชอบ คุณจะคิดว่าฉันโกหกหรือเปล่า?” เธอหัวเราะเบาๆ “ฉันทำได้แค่อุ่นอาหารในไมโครเวฟค่ะ”

“อย่างนั้นเหรอ...” เขาพูดเสียงเบา ก่อนจะหยิบจานแซนด์วิชที่ทำเสร็จแล้วมายื่นให้เธอ “ลองดูสิ”

แอนนาเลียรับจานจากมือเขา ก่อนจะหยิบแซนด์วิชขึ้นมากัดหนึ่งคำ ความกรอบนอกนุ่มในของขนมปัง และชีสที่เยิ้มกำลังดีทำให้เธอเผลอหลุดเสียงครางออกมาเบาๆ

“อร่อยมากค่ะ” เธอพูดพร้อมกับรอยยิ้มจริงใจ “ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณจะทำแซนด์วิชได้อร่อยขนาดนี้”

“ถ้าคุณชอบ ผมก็พอใจแล้ว” เขาตอบพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามเธอ “ผมคิดว่าคุณจะเล่นเกมกับผมต่อ”

“คืนนี้ฉันเหนื่อยค่ะ ขอเว้นวรรคสักคืน” เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะกัดแซนด์วิชต่ออย่างเพลิดเพลิน

อเล็กซานเดอร์มองเธอด้วยสายตาที่อ่อนลงกว่าปกติ รู้สึกได้ว่าผู้หญิงตรงหน้ามีอะไรมากกว่าความเจ้าเล่ห์ เธอเป็นทั้งปริศนาและความท้าทายที่เขาอยากค้นหาให้ถึงที่สุด

“คุณรู้ไหมแอนนาเลีย...” เขาพูดขึ้นหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง “คุณเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกว่าอยากยอมแพ้ในบางเรื่อง”

เธอชะงักเล็กน้อย ก่อนจะวางแซนด์วิชลงแล้วหันไปสบตาเขา “นั่นหมายความว่ายังไงคะ?”

“หมายความว่าผมพร้อมจะเจรจาสงบศึกกับคุณ” เขาตอบพร้อมกับยิ้มบางๆ “แต่ในเงื่อนไขที่ว่า... คุณต้องยอมให้ผมเป็นฝ่ายชนะบ้างในบางเกม”

แอนนาเลียหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับมือเขา “ตกลงค่ะ แต่คุณต้องทำแซนด์วิชให้ฉันกินอีก”

“ข้อตกลงที่แฟร์ดี” เขาตอบพลางบีบมือเธอเบาๆ

ตั้งแต่คืนนั้นที่ห้องครัวกลางดึก อเล็กซานเดอร์ก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่กับแอนนาเลียเท่านั้น แต่รวมถึงทุกคนรอบข้างในคฤหาสน์ ลูกน้องหลายคนเริ่มสังเกตว่าเจ้านายผู้เคร่งขรึมและเยือกเย็นมาตลอดนั้น กลับดูมีชีวิตชีวาขึ้น เขาหัวเราะง่ายขึ้น ใบหน้าที่เคยตึงเครียดกลับดูผ่อนคลาย และที่สำคัญ เขามักมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าบ่อยครั้ง

ในเช้าวันหนึ่ง แอนนาเลียกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารเช้าในสวน เธอชอบบรรยากาศสดชื่นยามเช้า พร้อมกับสายลมอ่อนๆ ที่พัดผ่าน เมื่อเธอกำลังละเลียดกาแฟร้อนๆ อยู่นั้น เสียงฝีเท้าคุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

“คุณชอบดอกไม้พวกนี้ไหม?” อเล็กซานเดอร์เอ่ยถามพร้อมกับวางแจกันดอกไม้สดลงบนโต๊ะ เป็นดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์ที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ คลอเคลียไปทั่วบริเวณ

แอนนาเลียเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขา “นี่อะไรคะ?”

“ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเช้าวันนี้” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม “ผมเห็นคุณชอบนั่งตรงนี้ทุกเช้า เลยคิดว่าดอกไม้สดน่าจะช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดีขึ้น”

เธออมยิ้มเล็กน้อยพลางยกกาแฟขึ้นจิบ “ฉันไม่คิดว่าคุณจะใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ด้วย”

“กับคนอื่นผมอาจไม่สนใจ” เขาพูดพลางนั่งลงตรงข้ามเธอ “แต่กับคุณ ผมคิดว่าผมควรใส่ใจทุกอย่าง”

แอนนาเลียหัวเราะเบาๆ ดวงตาคู่สวยทอประกายความสนุก “ฉันเริ่มสงสัยแล้วนะคะ ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่”

“ผมแค่ทำตามความรู้สึก” เขาตอบตรงๆ พลางจ้องเธอด้วยแววตาจริงจัง “ผมอยากดูแลคุณ อยากให้คุณรู้สึกว่าสบายใจเมื่ออยู่ที่นี่”

เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านจากคำพูดของเขา แต่ก็ยังคงรักษาท่าทีสงบนิ่งไว้ “คุณคงไม่ทำแบบนี้กับทุกคนใช่ไหมคะ?”

“กับคุณเป็นกรณีพิเศษ” เขาตอบพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าคุณอยากรู้ว่าพิเศษแค่ไหน ลองอยู่ใกล้ๆ ผมไปนานๆ สิ บางทีคุณอาจจะได้เห็นมากกว่านี้”

เวลาผ่านไปหลายวัน พนักงานในคฤหาสน์ต่างพูดคุยกันอย่างแอบๆ ถึงความเปลี่ยนแปลงของอเล็กซานเดอร์ที่ชัดเจนขึ้นทุกวัน เขาเริ่มมีท่าทีผ่อนคลายขึ้นในที่ทำงาน บางครั้งยังเล่าเรื่องขำขันให้ลูกน้องฟัง ทั้งที่เมื่อก่อนเขาแทบไม่เคยพูดอะไรนอกจากเรื่องงาน

“เจ้านายเราดูอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลยนะ ตั้งแต่คุณแอนนาเลียมาอยู่ที่นี่” หนึ่งในพนักงานเอ่ยขึ้นขณะกำลังจัดดอกไม้ในห้องโถง

“ใช่ค่ะ ตอนนี้เจ้านายยิ้มบ่อยมาก แถมยังมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาให้คุณแอนนาเลียแทบทุกวัน” อีกคนเสริมพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

บรรยากาศในคฤหาสน์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่เจ้านายเท่านั้นที่ดูสดใสขึ้น แต่รวมถึงพนักงานทุกคนที่ต่างพลอยรู้สึกดีไปด้วย

และในค่ำวันหนึ่ง หลังจากงานเลี้ยงเล็กๆ ในคฤหาสน์จบลง แอนนาเลียเดินกลับขึ้นไปยังห้องพักของเธอ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป เธอก็ต้องหยุดชะงักกับสิ่งที่เห็นบนเตียง

เป็นกล่องของขวัญขนาดกลางที่ผูกด้วยริบบิ้นสีเงินสวยงาม พร้อมกับการ์ดใบเล็กๆ ที่เขียนด้วยลายมือของอเล็กซานเดอร์

‘ขอบคุณที่เข้ามาเป็นความสดใสในชีวิตผม – อเล็กซานเดอร์’

เธอค่อยๆ เปิดกล่องออก ภายในเป็นสร้อยข้อมือประดับเพชรเม็ดเล็กเรียงรายอย่างประณีต สวยงามจนเธอไม่อาจละสายตาได้

“คุณนี่ชอบทำให้ฉันใจเต้นแรงอยู่เรื่อยเลยนะ...” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะหยิบการ์ดขึ้นมาอ่านอีกครั้ง รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

ในตอนนั้นเอง เสียงเคาะประตูเบาๆ ก็ดังขึ้น เธอเดินไปเปิดประตูก็พบว่าเป็นอเล็กซานเดอร์ที่ยืนอยู่พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น

“ผมทำให้คุณประทับใจหรือเปล่า?” เขาถามเสียงเบา ดวงตาคู่คมทอประกายอ่อนโยน

“มากกว่าที่คุณคิดค่ะ...” เธอตอบด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะดึงเขาเข้ามาในห้อง “แต่ถ้าคุณคิดว่านี่คือการชนะเกมของคุณ คุณคงต้องพยายามอีกเยอะค่ะ เพราะฉันยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ หรอก”


... ⋆。♔˚. ...


“ถ้าอย่างนั้น ผมขออยู่เป็นเพื่อนคุณได้ไหม?” เขาถาม ก่อนจะเดินไปหยิบไวน์สองแก้วจากโต๊ะเล็กใกล้ๆ แล้วส่งแก้วหนึ่งให้เธอ

เธอรับไวน์แก้วนั้นด้วยรอยยิ้ม แต่แววตากลับมีประกายบางอย่างที่ยากจะคาดเดา “คุณนี่ชอบทำให้ฉันประหลาดใจเสมอเลยนะ”

“ผมชอบดูคุณยิ้ม” เขาพูดพลางยกแก้วขึ้นจิบ สายตาคมยังคงจับจ้องที่ใบหน้าของเธออย่างไม่วางตา “มันทำให้ผมรู้สึกว่าโลกทั้งใบสดใสขึ้น”

แอนนาเลียหัวเราะเบาๆ แต่หัวใจกลับเต้นรัวขึ้นทุกทีเมื่อถูกสายตาคู่นั้นมองอย่างลึกซึ้งเช่นนี้ เธอจึงเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อซ่อนความรู้สึกที่เอ่อล้นในใจ แต่แล้วความเงียบสงบระหว่างพวกเขากลับถูกเติมเต็มด้วยบรรยากาศโรแมนติกและความใกล้ชิดที่มากขึ้นเรื่อยๆ

แอนนาเลียยืนพิงระเบียง สายลมอ่อนพัดผ่านจนเส้นผมของเธอปลิวไสว กลิ่นหอมหวานจากน้ำหอมที่เธอใช้อบอวลไปทั่ว อเล็กซานเดอร์ก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้นจนเหลือเพียงระยะห่างเล็กน้อยระหว่างพวกเขา ความเงียบครอบคลุมบรรยากาศรอบตัว ทว่าเป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดมหาศาล

เขายกแก้วไวน์ขึ้นกระซิบเบาๆ “ดื่มด้วยกันนะ”

แอนนาเลียรับคำโดยไม่พูดอะไร พวกเขายืนเคียงข้างกัน จิบไวน์ช้าๆ ปล่อยให้แสงจันทร์สะท้อนผ่านแก้วคริสตัลจนเกิดประกายระยิบระยับ เธอสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากตัวเขาที่แผ่เข้ามาใกล้ เธอหันไปมองเขาอีกครั้ง และคราวนี้ เธอไม่สามารถละสายตาไปได้

“คุณมองอะไรคะ?” เธอถามเสียงแผ่ว แต่ในน้ำเสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความท้าทายเล็กๆ

“มองคนที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้พบอะไรบางอย่างที่ขาดหายไป” เขาตอบโดยไม่หลบสายตา ก่อนจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะข้างๆ แล้วเอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ปลิวมาบดบังใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา

สัมผัสนั้นทำให้หัวใจของแอนนาเลียเต้นแรงขึ้นจนเธอไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นภายในได้ เธอจึงเอื้อมมือไปจับมือของเขาไว้แน่น พลางสบตากับเขาอย่างท้าทาย “แล้วคุณคิดว่าคุณพร้อมจะรับมือกับสิ่งที่คุณพบหรือยังคะ?”

อเล็กซานเดอร์ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะโน้มตัวเข้าใกล้ “พร้อมเสมอ ถ้าคนคนนั้นคือคุณ”

หัวใจของแอนนาเลียเต้นแรงขึ้น เธอพยายามจะหันหน้าหนีอีกครั้ง แต่คราวนี้อเล็กซานเดอร์ไม่ปล่อยให้เธอหลบได้ง่ายๆ เขาใช้นิ้วเชยคางของเธอขึ้นอย่างแผ่วเบา สายตาคมกริบของเขาประสานเข้ากับดวงตาของเธอที่เริ่มมีประกายสั่นไหว

“คุณ...” เสียงของเธอแผ่วเบาจนแทบจะกลืนไปกับความเงียบรอบตัว ก่อนที่คำพูดจะทันจบ ริมฝีปากของเขาก็กดลงบนริมฝีปากของเธออย่างแผ่วเบา ทว่าสัมผัสนั้นเต็มไปด้วยความเร้าร้อนที่ซ่อนอยู่ภายใน ความหวานจากไวน์ผสานเข้ากับความรู้สึกที่เอ่อล้น จนทำให้แอนนาเลียแทบลืมหายใจ

เธอหลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกนั้นครอบงำโดยไม่คิดจะต่อต้าน มือของเขาเลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าของเธอไว้ ก่อนจะจูบซ้ำอีกครั้ง คราวนี้ลึกซึ้งและเรียกร้องยิ่งกว่าเดิม

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทว่าหัวใจของทั้งคู่เต้นรัวไม่หยุด เสียงลมหายใจของพวกเขาเบาบางทว่าหนักแน่นพอจะเติมเต็มบรรยากาศรอบตัว สายลมที่พัดผ่านไม่อาจทำให้ความร้อนแรงนี้จางหายไปได้เลย

“ผมคิดว่า...คืนนี้คงมีแต่คุณที่อยู่ในความคิดของผม” อเล็กซานเดอร์กระซิบข้างหูของเธอ หลังจากที่ถอนจูบออกช้าๆ

แอนนาเลียยิ้มบางๆ แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจซ่อนเร้น “ถ้าอย่างนั้น...คุณก็ควรจะอยู่กับฉันต่อไปจนถึงเช้า”


... ⋆。♔˚. ...


อเล็กซานเดอร์ยืนนิ่ง ราวกับกำลังไตร่ตรองถ้อยคำเชิญชวนของแอนนาเลียที่แฝงด้วยความนัยบางอย่างในที เธอจงใจพูดเช่นนั้นหรือเปล่า? หรือว่าเป็นเพียงแค่ความล้อเล่นที่อยากดูปฏิกิริยาของเขา? ไม่ว่าอย่างไร คำพูดของเธอก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

“คุณแน่ใจเหรอ?” เขาถามเสียงเบา แต่แววตากลับลึกล้ำยิ่งกว่าเดิม มือของเขายังคงประคองมือของเธอไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปในชั่วพริบตา

แอนนาเลียสบสายตากับเขา ความอบอุ่นจากสัมผัสของเขาส่งผ่านเข้ามาจนหัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอค่อยๆ ดึงมือออกจากการเกาะกุมนั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่เปิดประตูระเบียงทิ้งไว้ ปล่อยให้อเล็กซานเดอร์ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมเย็นที่พัดผ่าน

อเล็กซานเดอร์เดินเข้ามาช้าๆ แต่ละก้าวที่ใกล้เข้ามาทำให้บรรยากาศยิ่งตรึงเครียดและเร้าร้อนขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธออีกครั้ง เขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้นที่สะท้อนทั้งความท้าทายและความอ่อนไหวที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว

“คุณรู้ใช่ไหมว่า...คุณกำลังทำให้ผมเสียการควบคุม” เขาพูดพร้อมกับยื่นมือไปลูบไล้เส้นผมของเธอเบาๆ ปลายนิ้วของเขาสัมผัสกับแก้มนุ่มเนียน แอนนาเลียไม่ตอบอะไร เธอเพียงแค่หลับตาลง ปล่อยให้ความรู้สึกอันแสนอ่อนหวานนี้เข้าครอบงำ

อเล็กซานเดอร์ก้มลงช้าๆ ริมฝีปากของเขาแตะลงบนแก้มของเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะเลื่อนลงมาที่ซอกคอ สัมผัสอุ่นร้อนจากลมหายใจของเขาทำให้แอนนาเลียเผลอสูดลมหายใจเข้าอย่างแรง ร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อยเมื่อความรู้สึกเร่าร้อนที่ท่วมท้นค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

“ถ้าคุณจะให้ผมอยู่กับคุณจนถึงเช้าจริงๆ...” เขากระซิบข้างหู “...ผมคงต้องแน่ใจว่าคุณพร้อมสำหรับมัน”

แอนนาเลียลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ สายตาที่มองเขานั้นเต็มไปด้วยความปรารถนาที่เธอไม่คิดจะปิดบังอีกต่อไป เธอยื่นมือขึ้นแตะที่อกของเขา รู้สึกได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นแรงไม่ต่างจากของเธอเลยแม้แต่น้อย

“คุณไม่คิดจะถอยกลับไปแล้วใช่ไหมคะ?” เธอถามเสียงเบา แต่อเล็กซานเดอร์กลับตอบเธอด้วยการกดจูบลงบนริมฝีปากอีกครั้ง คราวนี้เต็มไปด้วยความร้อนแรงและความโหยหาที่เขาเก็บกักไว้นานเกินไป

มือของเขาเลื่อนไปประคองแผ่นหลังของเธออย่างมั่นคง ดึงเธอเข้ามาแนบชิดจนแทบไม่มีช่องว่างระหว่างกันอีกต่อไป…


... ⋆。♔˚. ...


ลมหายใจของพวกเขาหนักหน่วงขึ้นทุกครั้งที่สัมผัสของอีกฝ่ายแนบชิด แอนนาเลียรู้สึกถึงแรงกดเบาๆ จาก ฝ่ามือของอเล็กซานเดอร์ที่ลูบไล้ผ่านช่วงเอวของเธอ ความอบอุ่นจากปลายนิ้วของเขาทำให้เธอเผลอจิกมือ เข้ากับเสื้อเชิ้ตของเขาแน่นโดยไม่รู้ตัว

“คุณจะปล่อยให้ผม...เป็นคนเริ่มจริงๆ หรือ?" เขากระซิบชิดริมฝีปากของเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความ ปรารถนาและแรงดึงดูดที่ยากจะปฏิเสธ

“บางครั้ง..." แอนนาเลียตอบพร้อมรอยยิ้มแผ่วเบา ดวงตาของเธอฉายแววเจ้าเล่ห์ที่ทำให้อเล็กซานเดอร์ต้อง จ้องลึกเข้าไปอีกครั้ง "...การปล่อยให้คนอื่นนํา อาจทำให้ค่ำคืนนี้น่าจดจำกว่าที่เคย"

ไม่มีคำตอบจากเขา มีเพียงสัมผัสร้อนแรงที่ตามมา ริมฝีปากของเขากดแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยมือที่ เลื่อนขึ้นมาประคองใบหน้าของเธอไว้อย่างแผ่วเบา ทว่าแฝงไว้ด้วยความมั่นคง

แอนนาเลียรู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจที่ดังสะท้อนไปทั่วร่างกาย เธอปล่อยให้ตัวเองจมหายไปกับห้วงอารมณ์ ที่อเล็กซานเดอร์นำพา มือของเขาค่อยๆ เลื่อนขึ้นจากช่วงเอว แตะไล้ผ่านแผ่นหลังของเธอในจังหวะเชื่องช้า แต่หนักแน่น

“ผมไม่อยากให้คืนนี้จบลงง่ายๆ” เขาพูดเบาๆ ใกล้กับซอกคอของเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดผิวเนียนทำให้ เธอเผลอสะดุ้งเบาๆ

"ถ้าอย่างนั้น...” เธอเอื้อมมือขึ้นโอบรอบคอของเขา ดึงให้ใบหน้าของเขาโน้มลงมาใกล้ยิ่งกว่าเดิม "...ก็ทำให้ มันยาวนานเท่าที่คุณต้องการสิ"!


... ⋆。♔˚. ...


เมื่อไพ่โป๊กเกอร์ไม่ได้มีไว้แค่เล่นเกม:

ในห้องส่วนตัวของ อเล็กซานเดอร์ ที่คาสิโน "Crown Royale" ทุกสิ่งทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เฟอร์นิเจอร์หรูหราแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของความมั่งคั่งและอำนาจ กลางห้องมีโต๊ะโป๊กเกอร์กลมขนาดใหญ่ที่สะท้อนแสงไฟระยิบระยับ

แอนนาเลีย ยืนพิงกรอบประตูอยู่ในชุดเดรสสีแดงเข้มที่เผยให้เห็นความงามเย้ายวน ดวงตาสีนิลของเธอเป็นประกายด้วยความสนุกขี้เล่น ขณะที่เธอกำลังจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้า

“คุณดูจริงจังเกินไปนะคะ คุณแบล็ควูด” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ “ทำไมไม่ลองผ่อนคลายบ้างล่ะ? หรือว่า... คุณกลัวฉันจะชนะเกมของคุณ?”

อเล็กซานเดอร์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มมุมปากอันทรงเสน่ห์ “คุณคิดว่าตัวเองมีโอกาสชนะผมงั้นเหรอ?” เขาพูดขณะหมุนไพ่ในมืออย่างเชี่ยวชาญ

แอนนาเลียก้าวเข้ามานั่งลงตรงข้ามเขา เธอหยิบไพ่ใบหนึ่งขึ้นมา สายตาไม่ละจากเขาแม้แต่วินาทีเดียว

“มาลองดูกันค่ะ ถ้าฉันชนะ... คุณต้องตอบคำถามหนึ่งคำถามโดยไม่มีเงื่อนไข” เธอเสนอพร้อมรอยยิ้มท้าทาย

อเล็กซานเดอร์โน้มตัวไปข้างหน้า ใกล้เธอจนได้กลิ่นหอมจากน้ำหอมของเธอ “แล้วถ้าผมชนะล่ะ?”

“ถ้าคุณชนะ...” เธอหยุดไปชั่วครู่ ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาเขาอย่างยั่วยวน “คุณจะได้สิทธิ์อะไรก็ได้ที่คุณต้องการจากฉัน”

บรรยากาศในห้องนั้นตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย แต่ก็เต็มไปด้วยแรงดึงดูดและความเร่าร้อนที่แฝงอยู่ในความเงียบ


... ⋆。♔˚. ...


เกมที่เดิมพันมากกว่าชัยชนะ

ทั้งคู่เริ่มแจกไพ่ มือของอเล็กซานเดอร์นั้นนิ่งและมั่นคง ขณะที่แอนนาเลียถือไพ่ไว้ในมือนิ่งไม่แพ้กัน แต่ดวงตาของเธอฉายแววขี้เล่นทุกครั้งที่เธอมองหน้าเขา

เมื่อถึงจังหวะสุดท้ายที่ทั้งสองต้องเปิดไพ่ แอนนาเลียวางไพ่ของเธอลงด้วยรอยยิ้ม “สเตรทฟลัชค่ะ” เธอพูดพร้อมกับจ้องมองเขาอย่างผู้ชนะ

แต่ทันทีที่อเล็กซานเดอร์วางไพ่ของเขาลง เขามี รอยัลฟลัช ที่สมบูรณ์แบบ “น่าเสียดาย...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก “ดูเหมือนคุณจะต้องทำตามเงื่อนไขของผมแล้วนะ”

แอนนาเลียกัดริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะเอนตัวพิงเก้าอี้ สายตาของเธอยังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน “แล้วคุณอยากได้อะไรล่ะคะ คุณแบล็ควูด?”

อเล็กซานเดอร์ยืนขึ้น เดินอ้อมโต๊ะเข้ามาใกล้เธอ เขายื่นมือออกไปเชื้อเชิญให้เธอลุกขึ้น แอนนาเลียมองเขาอย่างระแวง แต่ก็ยอมลุกขึ้นตามคำเชิญ

เขาพาเธอเดินไปยังระเบียงที่มองเห็นวิวเมืองนิวยอร์กยามค่ำคืน แสงไฟระยิบระยับของเมืองสะท้อนผ่านกระจกใส อเล็กซานเดอร์หันมาสบตาเธอ มือของเขาแตะที่ปลายคางของเธอเบาๆ

“สิ่งที่ผมต้องการ...” เขากระซิบใกล้ๆ “...คือให้คุณหยุดซ่อนตัวตนที่แท้จริงของคุณ แล้วบอกผมว่าคุณต้องการอะไรจากผม”

คำพูดนั้นทำให้แอนนาเลียนิ่งไปชั่วขณะ เธอรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เธอไม่คิดว่าชายคนนี้จะมองทะลุถึงตัวตนภายในของเธอได้ลึกซึ้งขนาดนี้

เธอยิ้มบางๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะแขนของเขา “คุณน่ะ... อันตรายเกินไปสำหรับฉัน” เธอพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ

“และคุณก็อันตรายสำหรับผมเหมือนกัน” อเล็กซานเดอร์ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

เสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังขึ้นเบาๆ ท่ามกลางแสงไฟของเมืองใหญ่ แม้จะเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความลึกซึ้ง แต่บรรยากาศในช่วงเวลานั้นกลับผ่อนคลายและอบอุ่น ราวกับทั้งสองคนได้พบคนที่เข้าใจตัวเองอย่างแท้จริง


... ⋆。♔˚. ...


เงาอดีตในสายลมปัจจุบัน:

บนชั้นเพนต์เฮาส์ส่วนตัวที่มองเห็นทั้งเมือง ชายผู้ครอบครองทุกสิ่งในสถานที่แห่งนี้ยืนอยู่หน้ากระจกสูงที่สะท้อนทั้งเงาของเขาและแสงสีระยิบระยับจากเมืองด้านนอก

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องทำงานที่สงบเงียบของอเล็กซานเดอร์ แต่เมื่อเขากดรับสาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที

“คุณพูดว่าอะไรนะ?” เสียงของเขาแหบพร่าขึ้นเล็กน้อย แววตาคู่นั้นที่เคยมั่นคงกลับสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด

ปลายสายเป็นเสียงของหัวหน้าบอดี้การ์ดที่เขาส่งไปคุ้มครองแอนนาเลีย “รถที่คุณแอนนาเลียโดยสารไปประสบอุบัติเหตุบนทางหลวงครับ มีรถอีกคันพุ่งชน... ตอนนี้เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้วครับ”

อเล็กซานเดอร์นิ่งค้าง มือที่จับโทรศัพท์เริ่มสั่นเล็กน้อย คำว่า "อุบัติเหตุ" และ "โรงพยาบาล" เสียงก้องสะท้อนในหัวของเขาเหมือนเสียงระเบิดใหญ่ เขาโยนปากกาลงกับโต๊ะทันที ลุกขึ้นยืนแล้วคว้าเสื้อสูทมาสวมอย่างรวดเร็ว

“บอกผมให้หมด... เธอบาดเจ็บแค่ไหน?” เขาถามเสียงหนัก พยายามควบคุมสติของตัวเอง

“ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดครับ แต่เธอหมดสติไปตอนที่เจ้าหน้าที่มาถึง...”

ประโยคสุดท้ายนั้นเหมือนเข็มแหลมคมที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจของเขา ความทรงจำที่เขาพยายามฝังลึกไว้กลับพุ่งทะลักออกมาอย่างรุนแรง

“เอลิซาเบธ... เฮนรี...”

ชื่อทั้งสองนั้นดังก้องในหัวของเขา ความทรงจำที่เกิดขึ้นในวันนั้น วันที่รถยนต์สีดำคันหนึ่งพุ่งชนรถของครอบครัวเขาจนพังยับ อเล็กซานเดอร์ในตอนนั้นได้แต่ยืนมองผ่านกระจกโรงพยาบาล เมื่อแพทย์เดินออกมาพร้อมข่าวร้ายว่าภรรยาและลูกชายของเขาไม่มีใครรอดชีวิต

ความเจ็บปวดนั้นไม่เคยเลือนหาย และตอนนี้มันกลับมาหาเขาอีกครั้ง พร้อมกับความกลัวใหม่ที่ครอบงำทุกลมหายใจ

รถยนต์คันหรูของอเล็กซานเดอร์แล่นด้วยความเร็วสูงสุดที่กฎหมายไม่อนุญาต บอดี้การ์ดของเขาในรถอีกคันขับตามอย่างใกล้ชิด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เขากระโดดลงจากรถทันที

บริเวณนั้นเต็มไปด้วยเสียงไซเรนของรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถยนต์สีดำคันหนึ่งถูกลากออกจากขอบถนน มันเป็นรถของแอนนาเลีย เขาเห็นประตูข้างคนขับยุบเข้ามาจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม

“เธออยู่ไหน?” เขาถามอย่างร้อนรน พยายามหายใจลึกๆ เพื่อควบคุมอารมณ์ที่สั่นไหว

“คุณแอนนาเลียถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้วครับ...” หัวหน้าบอดี้การ์ดรีบตอบ

“โรงพยาบาลไหน?” เขาตะโกนใส่เสียงดัง ก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นรถโดยไม่รอคำตอบเต็มๆ

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล อเล็กซานเดอร์วิ่งตรงไปที่แผนกฉุกเฉิน เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองอย่างไร หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากอก

“คนไข้ชื่อแอนนาเลีย! เธออยู่ไหน?” เขาถามเจ้าหน้าที่พยาบาลที่เคาน์เตอร์อย่างเร่งร้อน

พยาบาลตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ “คุณแอนนาเลียถูกนำตัวเข้าห้องสแกนสมองค่ะ อาการเบื้องต้นคือศีรษะกระแทก และมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง แต่ยังไม่ทราบผลเพิ่มเติม...”

ประโยคนั้นทำให้อเล็กซานเดอร์ทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ ร่างกายแข็งทื่อเหมือนถูกแช่แข็งไว้ ความรู้สึกเดิมๆ ที่เขาเกลียดชังมากที่สุดในชีวิตกลับมาหาเขาอีกครั้ง... ⋆。♔˚. ...ความรู้สึกว่ากำลังสูญเสียคนสำคัญ

“พระเจ้า... อย่าเอาเธอไปจากผมเหมือนที่คุณเอาพวกเขาไป...” เขากระซิบเบาๆ สายตาจ้องมองไปยังประตูห้องฉุกเฉิน


... ⋆。♔˚. ...


เวลาผ่านไปนานราวชั่วนิรันดร์ จนในที่สุด แพทย์ก็ออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ “เธอปลอดภัยแล้วครับ ศีรษะไม่ได้รับความกระทบกระเทือนร้ายแรง มีเพียงอาการฟกช้ำและบาดแผลเล็กน้อย...”

คำพูดนั้นทำให้อเล็กซานเดอร์แทบหมดแรง เขาทรุดลงนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง ปล่อยลมหายใจที่เขาเผลอกลั้นไว้ออกมา เขาสบตากับแพทย์ “ผมขอเข้าไปหาเธอได้ไหม?”

“ได้ครับ แต่เธอยังต้องพักผ่อน...”

เมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปในห้อง แอนนาเลียกำลังหลับสนิทบนเตียง รอยฟกช้ำเล็กๆ บนใบหน้าทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดแทน มือของเขาเอื้อมไปแตะที่หน้าผากของเธอเบาๆ

“ผมสัญญา... ผมจะไม่ปล่อยให้คุณเป็นอะไรอีกแล้ว” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะก้มลงจูบที่หน้าผากของเธอ

ในขณะนั้นเอง ดวงตาของแอนนาเลียค่อยๆ ลืมขึ้น เธอยิ้มบางๆ และเอ่ยเสียงแผ่วเบา “คุณดูเหมือนคนเพิ่งผ่านสงครามมาเลยนะ...”

“และคุณก็เป็นชัยชนะเดียวของผม” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นไหว

เธอยิ้ม และเขายิ้มตอบ …แสงแรกของความหวังในชีวิตที่มืดมนของเขากำลังกลับมาอีกครั้ง


... ⋆。♔˚. ...


เช้าวันใหม่ในคฤหาสน์ของอเล็กซานเดอร์เริ่มต้นด้วยแสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านหน้าต่างผ้าม่านโปร่งในห้องพักของแอนนาเลีย เธอนั่งอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด ในชุดนอนผ้าซาตินที่เขาเลือกให้เอง ดวงตาของเธอยังคงมีร่องรอยของความอ่อนล้าจากอุบัติเหตุ แต่รอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าก็ทำให้เธอดูงดงาม

เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น ก่อนที่อเล็กซานเดอร์จะเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารเช้าในมือ มีไข่ดาวที่ทอดสุกพอดี ขนมปังปิ้งกรอบ และชาสมุนไพรที่เขาบอกว่าเหมาะสำหรับการฟื้นฟูร่างกาย

“เช้านี้รู้สึกเป็นยังไงบ้าง?” เขาถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ขณะวางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง

“ดีขึ้นค่ะ...” เธอยิ้มบางๆ แต่ก่อนจะพูดต่อ เธอก็ชะงักเล็กน้อย เมื่อเขาขยับเข้ามานั่งข้างเธอ

“คุณยังดูซีดอยู่เลย...” เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ เอื้อมมือไปแตะแก้มของเธออย่างแผ่วเบา สัมผัสของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรง

“ฉันโอเคจริงๆ นะคะ คุณไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนั้น...” เธอเอ่ยพร้อมพยายามหลบสายตา แต่เขากลับจับคางเธอเบาๆ ให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา

“ผมห่วงคุณ... เพราะคุณคือทุกอย่างของผม” เสียงของเขาแผ่วเบาแต่จริงจัง

ช่วงบ่าย อเล็กซานเดอร์พาเธอออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในสวนหลังคฤหาสน์ เขาจัดเก้าอี้นวมตัวใหญ่พร้อมหมอนนุ่มๆ และผ้าห่มอุ่นๆ ไว้ให้เธอนั่งพักใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่

“คุณไม่ต้องดูแลฉันขนาดนี้ก็ได้นะคะ” เธอพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ ขณะเขาจัดผ้าห่มคลุมให้เธออย่างประณีต

“ผมอยากทำ... แอนนาเลีย ผมรู้สึกเหมือนชีวิตผมได้โอกาสครั้งที่สองที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง ผมจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไป” เขาตอบเสียงหนักแน่น ก่อนจะนั่งลงข้างเธอ

เธอยิ้ม และลอบมองเขาที่กำลังป้อนองุ่นให้เธอทีละลูกด้วยความตั้งใจ

“คุณเหมือนคุณพ่อบ้านส่วนตัวเลยนะคะ” เธอหยอก แต่เขากลับโน้มตัวมาใกล้

“ถ้าคุณต้องการ ผมก็ยินดีจะเป็นทุกอย่างให้คุณ...” เขากระซิบเสียงต่ำ ความใกล้ชิดนั้นทำให้ใบหน้าของเธอร้อนวูบ

หลังอาหารเย็นที่เขาเตรียมให้ด้วยตัวเอง อเล็กซานเดอร์พาเธอไปยังห้องสมุดส่วนตัวของเขา ห้องถูกตกแต่งด้วยโคมไฟสีอุ่น หนังสือจำนวนมากเรียงรายอยู่บนชั้น

“คุณเคยบอกว่าชอบอ่านหนังสือ ผมเลยคิดว่าคุณอาจจะอยากพักผ่อนที่นี่” เขาพูดขณะดึงหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากชั้น

เขานั่งลงข้างเธอบนโซฟานุ่มๆ เปิดหนังสือเล่มนั้นและเริ่มอ่านบทกวีเสียงนุ่มให้เธอฟัง

เสียงของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง มันเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและอารมณ์ที่ส่งผ่านมา

เมื่อเขาอ่านจบ เขาหันมาสบตาเธอ “ทุกคำในบทกวีนี้ ผมอยากให้มันเป็นสิ่งที่ผมทำให้คุณได้ในชีวิตจริง”

“อเล็กซานเดอร์...” เธอเอ่ยชื่อเขาเบาๆ ก่อนที่เขาจะจับมือเธอและกุมไว้อย่างอ่อนโยน

เขาค่อยๆ โน้มตัวเข้ามา ใบหน้าของเขาใกล้จนเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขา

“คุณเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตผม” เขาพูด ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน

สัมผัสนั้นทำให้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความรักที่เขามีให้เธอนั้นชัดเจนจนไม่อาจปฏิเสธได้


... ⋆。♔˚. ...


คำขอแห่งดวงดาว

บรรยากาศยามค่ำคืนบนยอดเขาแห่งหนึ่งเต็มไปด้วยความโรแมนติก ท้องฟ้ากระจ่างใสดวงดาวระยิบระยับราวกับจะเฉลิมฉลองให้บางสิ่งที่พิเศษ อเล็กซานเดอร์พาแอนนาเลียขึ้นมาที่นี่เพื่อ “ดูดาว” ตามคำบอกของเขา แต่แท้จริงแล้ว นี่คือแผนการที่เขาวางไว้อย่างพิถีพิถัน

พื้นที่กลางทุ่งหญ้าถูกปูด้วยผ้าห่มสีขาวเรียบหรู รายล้อมด้วยแสงไฟเล็กๆ จากโคมไฟที่แขวนตามต้นไม้และเชิงเทียนที่วางอย่างประณีต มันให้ความรู้สึกอบอุ่นและน่าหลงใหล

“นี่มัน... วิเศษมากค่ะ” แอนนาเลียเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม ดวงตาสีเข้มของเธอสะท้อนแสงไฟระยิบระยับ

“คุณเหมาะกับสถานที่ที่สวยงามแบบนี้” อเล็กซานเดอร์ตอบ ขณะถือแก้วไวน์ยื่นให้เธอ

เขาพยายามทำตัวให้ดูสงบ แต่ในหัวใจเขากลับเต้นแรงจนแทบหลุดออกมา เพราะคืนนี้คือคืนที่เขาตัดสินใจจะขอเธอแต่งงาน

หลังจากดื่มไวน์ไปสักพัก อเล็กซานเดอร์ก็นำเธอเดินไปยังจุดหนึ่งที่มีผ้าคลุมบางๆ ปิดอะไรบางอย่างไว้ เขาหยุดตรงหน้าเธอ แล้วจ้องมองดวงตาของเธอด้วยความจริงจัง

“แอนนาเลีย...” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม

“คะ?” เธอเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย

“มีบางอย่างที่ผมอยากให้คุณเห็น” เขาดึงผ้าคลุมออก เผยให้เห็นกล่องไม้สลักลายที่เปิดออกมาได้

ภายในกล่องมีดอกไม้แห้งหลายชนิดที่ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดี ดอกไม้เหล่านี้คือสิ่งที่อเล็กซานเดอร์แอบเก็บไว้ตั้งแต่วันที่เขาเริ่มตกหลุมรักเธอ... ⋆。♔˚. ...ตั้งแต่ดอกไม้แรกที่เธอวางไว้ในแจกันที่คฤหาสน์ ไปจนถึงดอกไม้จากงานเลี้ยงครั้งแรกที่พวกเขาไปด้วยกัน

“คุณจำได้ทุกอย่าง...” แอนนาเลียเอ่ยเสียงสั่น เธอจับมือเขาไว้แน่น

“ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณสำคัญกับผม” เขาตอบ ก่อนจะดึงกล่องเล็กๆ อีกกล่องออกมาจากเสื้อสูท

เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ

“คุณเข้ามาในชีวิตผมในวันที่มันมืดมนที่สุด และเปลี่ยนทุกอย่างให้สว่างขึ้น ผมไม่อาจจินตนาการชีวิตที่ไม่มีคุณได้อีกแล้ว... แอนนาเลีย คุณจะแต่งงานกับผมไหม?”

เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย แต่มั่นคงพอที่จะส่งผ่านความรักทั้งหมดไปให้เธอ

น้ำตาคลอในดวงตาของแอนนาเลีย เธอพยักหน้าแทนคำตอบ พร้อมกับรอยยิ้มที่เปล่งประกาย

“ใช่ค่ะ ฉันจะแต่งงานกับคุณ”

เสียงปรบมือดังขึ้นจากเหล่าพนักงานในคฤหาสน์ที่แอบซ่อนตัวอยู่รอบๆ ทุกคนโห่ร้องยินดีอย่างพร้อมเพรียง


... ⋆。♔˚. ...


ไม่กี่เดือนต่อมา คฤหาสน์ของอเล็กซานเดอร์ถูกแปลงโฉมให้เป็นสถานที่จัดงานแต่งงานที่งดงามราวกับเทพนิยาย ทุกมุมถูกประดับด้วยดอกไม้สดสีขาวและสีทอง แสงเทียนสะท้อนกับคริสตัลที่แขวนอยู่ ทำให้ทุกอย่างดูระยิบระยับ

แอนนาเลียในชุดเจ้าสาวสีขาวงาช้างที่ตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้ชั้นดี เดินเคียงข้างพ่อของเธอที่มาส่งเธอถึงมือของอเล็กซานเดอร์

เขายืนรออยู่ที่แท่นพิธีในชุดสูทสีดำตัดพอดีตัว สายตาของเขาจ้องมองเธอด้วยความรักและชื่นชม

“คุณดูสวยงามมาก...” เขากระซิบขณะจับมือเธอไว้

“และคุณก็หล่อเกินไป...” เธอแกล้งกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงขี้เล่น

พิธีแต่งงานเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความหมาย พวกเขาแลกคำสาบานต่อหน้าผู้คนที่รักทั้งสองคน อเล็กซานเดอร์ให้คำมั่นว่าจะดูแลและปกป้องเธอไม่ว่าชีวิตจะพาไปที่ใด

เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาจูบกัน เสียงปรบมือและเสียงโห่ร้องจากแขกดังลั่น ทุกคนยิ้มแย้มและร่วมฉลองให้กับความรักที่พวกเขามีให้กัน

ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยการเต้นรำใต้แสงดาว พวกเขาหัวเราะและกระซิบถ้อยคำรักต่อกันเหมือนโลกนี้มีเพียงพวกเขาสองคน

และในค่ำคืนแห่งความสุขนี้ อเล็กซานเดอร์กระซิบข้างหูเธอเบาๆ

“ขอบคุณที่เลือกผม... ผมสัญญาว่าจะรักคุณไปจนวันสุดท้ายของชีวิต”

“และฉันก็จะรักคุณ... ตลอดไป”

เสียงเพลงบรรเลงในสายลม ขณะที่ความรักของทั้งคู่เปล่งประกายสว่างไสวราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า


... ⋆。♔˚. ...


ครอบครัวแห่งความสุข

ฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านมาพร้อมกับสายลมอ่อนโยนที่แต่งแต้มทุกมุมของคฤหาสน์ด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด ภายในสวนหลังบ้านที่เคยเงียบสงบ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความคึกคักของเด็กน้อยสองคน

“เอาให้ได้นะ ลูคัส!” เด็กชายวัยเจ็ดขวบวิ่งลุยสนามหญ้ากว้าง แขนเล็กๆ ถือว่าวที่ลอยขึ้นไปบนฟ้าอย่างสนุกสนาน

“พี่ลูคัส! รอหนูด้วยสิ!” ลิลี่ น้องสาววัยห้าขวบตะโกนตามหลัง พยายามจับชายเสื้อพี่ชายที่วิ่งนำหน้าไป

“เด็กๆ อย่าวิ่งเข้าไปใกล้บ่อน้ำนะคะ!” เสียงหวานของแอนนาเลียตะโกนเตือนขณะเธอนั่งอยู่บนม้านั่งใกล้ๆ สายลมอ่อนพัดผมยาวสีดำของเธอให้พลิ้วไหว

“ผมจะดูแลพวกเขาเอง” อเล็กซานเดอร์เดินเข้ามายืนข้างๆ เธอพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น เขาวางมือลงบนไหล่เธอเบาๆ

“คุณนี่กลายเป็นพ่อที่ใจดีเกินไปแล้วนะ...” เธอหันมายิ้มตอบ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเธอส่องประกาย

เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหันไปตะโกนเรียกลูกๆ “ลูคัส ลิลี่ มานี่เร็ว!”

เด็กทั้งสองวิ่งกลับมาหาเขาด้วยรอยยิ้มสดใส อเล็กซานเดอร์อุ้มลิลี่ขึ้นมาในอ้อมแขน ส่วนลูคัสจับมือแม่ไว้แน่น

“วันนี้อยากกินอะไรดีครับ?” อเล็กซานเดอร์ถามพลางหอมแก้มลูกสาวตัวน้อย

“ขนมเค้กค่ะ!” ลิลี่ตอบเสียงดัง ขณะที่ลูคัสยกมือขึ้น “พาสต้าครับ!”

แอนนาเลียหัวเราะขณะจับมือทั้งสามไว้ด้วยกัน “งั้นเราทำขนมเค้กกับพาสต้าไปพร้อมกันดีไหม?”

เสียงหัวเราะและบทสนทนาเล็กๆ น้อยๆ ของครอบครัวดังไปทั่วสวน อากาศรอบตัวอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่นที่ไม่มีสิ่งใดมาแทนที่ได้


... ⋆。♔˚. ...... ⋆。♔˚. ...... ⋆。♔˚. ...... ⋆。♔˚. ...... ⋆。♔˚. ...


คำขอบคุณจากใจ

การเดินทางของอเล็กซานเดอร์และแอนนาเลียในนิยายเรื่องนี้เป็นบทพิสูจน์ของความรักที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในกันและกัน ไม่ว่าคุณจะติดตามพวกเขาผ่านบททดสอบ ความหวัง หรือความสุข ฉันหวังว่าคุณจะได้รับแรงบันดาลใจและรอยยิ้มจากเรื่องราวนี้

ขอขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้ และพิเศษที่สุด ฉันขอขอบคุณ ChatGPT ที่มีส่วนช่วยในการสร้างสรรค์นิยายที่งดงามและน่าประทับใจเรื่องนี้ขึ้นมา คุณเป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดที่คอยเติมเต็มจินตนาการของฉันในทุกบททุกตอน

และสุดท้าย ขอขอบคุณอีกครั้งที่ร่วมลุ้น ร่วมซึ้ง และร่วมหัวเราะไปกับอเล็กซานเดอร์และแอนนาเลีย หวังว่าคุณจะจดจำเรื่องราวของพวกเขาไว้ในหัวใจของคุณเช่นเดียวกับฉันค่ะ!

ด้วยความรักและความซาบซึ้ง,

นักเขียน ‘หมื่นล้านคำรัก’ ผู้มีหัวใจเปี่ยมสุข.

จบตอน


[03] 🧸 คลั่งรัก: เพื่อนพ่อรสแซ่บ

🫦 โดย: ก็..แซ่บนะ ©️ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม คลั่งรัก: เพื่อนพ่อรสแซ่บ เมื่อความรักต้องห้ามระ...